วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แฟชั่นกับน้ำหอม

แฟชั่นกับน้ำหอม

โลกของแฟชั่นได้ปฎิวัติวงการน้ำหอมไปเสียสิ้นอันที่จริงจะว่าไปแล้ว แฟชั่นการแต่งกายก้ทำให้วงการน้ำหอมเป็อย่างที่เห็นในทุกวันนี้ ปัจจุบัน ดีไซเนอร์ หรือนักออกแบบเสื้อผ้าดังๆทุกยี่ห้อล้วนมีน้ำหอมยี่ห้อของตัวเอง ซึ่งท่าทางจะสร้างรายได้ให้พวกเขามากกว่าการขายเสื้อผ้าเสียอีก (ไม่ว่าจะเป็น Chanel, Christian Dior, Giorgio Armani, Issey Miyake, Kenzo และอื่นๆอีกเหลือคณา) อีกทั้งน้พหอมเหล่านี้ น่าจะสร้างชื่อเสียงผ่านทางสื่อต่างๆได้อย่างมากเมื่อเปรียบดูแล้ว เราเห็นโฆษณาน้ำหอมมากกว่าโฆษณาเสื้อผ้า หรือภาพการแสดงแบบเสื้อบนเวทีเสียด้วยซ้ำ

Paul Poiret
Paul Poiret
น้ำหอมยี่ห้อดีไซเนอร์กลิ่นใหม่ๆที่ประสบความสำเร็จนั้นไม่ได้เป็นเพราะกลิ่น แต่ยังรวมถึงชื่อเสียงของดีไซเนอร์นั้นๆและการวางแผนทางการตลาดที่ดี อันที่จริง ถ้าคุณออกไปข้างนอก และกวาดตามอง คุณจะเจอผู้หญิงที่สวมเสื้อผ้าของ  Jean Paul Gaultier, Yves Saint Laurent, Christian Dior, Givenchy และยี่ห้อดังๆอื่นๆ แค่ไม่กี่คน แต่หลายคนจะใช้น้ำหอม หรือเครื่องสำอางค์ยี่ห้อเหล่านี้ ซึ่งนั้นก็อาจรวมถึงตัวคุณเองด้วยเช่นกัน

พอล ปัวเรต์ (Paul Poiret) เป็นคูตูริเยต์ (Couturier = นักออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่นชั้นสูง) ผู้เริ่มนำพาน้ำหอมเข้าสู่อาณาจักรแฟชั่น เพราะเขาเป็นคนรักน้ำหอมมาก เขาจึงผลิตน้ำหอมของเขาออกมาในยุค 1910 โดยไม่มีคูตูริเยต์ หรือ ดีไซเนอร์คนใดได้เคยทำมาก่อน ตอนนั้นเขาขาดความมั่นใจ และกล่าวว่า "จะไม่มีใครใช้น้ำหอมยี่ห้อของช่างทำเสื้อหรอก" เขาก็เลยตั้งชื่อน้ำหอมว่า Les Perfums de Rosine แทนที่จะใช้ชื่อ Poiret ของตัวเองเป็นชื่อยี่ห้อ ผลที่ได้กลับผิดคาด เขาได้รับการต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ทั้งเงินทอง ทั้งความชื่นชอบ เขาคือนักออกแบบคนแรกที่ได้เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างอารมณ์กับแฟชั่นเสื้อผ้าเข้ากับกลิ่นกายให้แก่สตรีเพศ

เขาบอกลูกค้าของเขาว่า "คุณสวมชุดนั้นได้อย่างงดงาม แต่หยดน้ำหอมของผมสักหนึ่งหยดลงบนชายเสื้อ เสื้อผ้าชุดนี้จะช่วยให้คุณสวยคร่าหัวใจ" พอลปัวเรต์ เป็นนักออกแบบเสื้อผ้าคนแรกที่มีน้ำหอมของตนเอง แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่า โกโก้ ชาแนล (Coco Chanel) ต่างหากที่เป็นผู้เปลี่ยนประวัติศาสตร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น