วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Guerlain บริษัทน้ำหอมแห่งแรก

Guerlain บริษัทน้ำหอมแห่งแรก
Guerlain ได้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1828 ณ กรุงปารีส เป็นการเริ่มยุค สมัยแห่งธุรกิจน้ำหอมอย่างแท้จริง ในวันนี้ Guerlain ถือเป็นหนึ่งในบริษัทน้ำหอมที่ยิ่งยงตราบนานที่สุดของโลกความโดดเด่นที่ทำให้ทุกคนต้องจันตามอง Guerlainนั้นคือการเขย่าบัลลังก์อาณาจักรน้ำหอมของอังกฤษ ในยุควิคตอเรียน อดีตกาลนั้น การทำนํ้าหอมของอังกฤษ เกิดขึ้นจากแนวคิดเรียบง่าย น้ำหอมแนวกลิ่นเดียวจากหัวน้ำหอมชนิดเดียว ซึ่งมักได้จากน้ำสกัดจากดอกไม้เพียงอย่างเดียว ให้ความรู้สึกเซ็กซี่ได้เท่าไหร่

น้ำหอมสุดฮิตของแผ่นดิน อังกฤษย่อมเลี่ยงไม่พ้นกุหลาบกับลาเวนเดอร์ ซึ่งสุภาพสตรี ทั้งหลายจะแตะพรมให้กลิ่นติดผ้าเช็ดหน้า หัวน้ำหอมต้องห้ามนันคือกลิ่นของ musk (ชะมด) รวมถึงการใช้น้ำหอมใดๆที่มีกลิ่นโน้มนำรัญจวนอารมณ์ให้ถวิลหาไปทางเพศ ทว่า Guerlain ไต้หักล้างกฎเกณฑ์ทั้งปวง

น้ำหอม Jicky
น้ำหอม Jicky
ด้วยการสร้างสรรค์กลิ่นน้ำหอมต่าง ขึ้นมาจากการสอดประสานแนวกลิ่นมากมายให้กลายเป็นกลิ่นหอมเดียวที่มีลำดับการพัฒนาของกลิ่น อย่างเช่น น้ำหอม Jicky ในปี ค.ศ 1889 น้ำหอมกลิ่นที่ดูธรรมดา แต่พัฒนาตัวคลี่คลายสยายความรู้สึกเร้าอารมณ์บนผิวกายเมื่อเวลาผ่านไปสักสองสามชั่วโมง นอกจากนั้น บริษัทยังคัดสรรใช้เฉพาะส่วนผสมทรงคุณภาพ และคุณค่าโดยไม่ใส่ใจว่าจะหายากเพียงใด หรือสกัดกลั่นกรองได้ลำบากแค่ไหนรวมถึงการทำลายกำแพงกีดกั้นให้ประจักษ์ถึงสิ่งที่เป็นไปได้ และเป็นที่ยอมรับกันในระดับสากล

น้ำหอม Mitsou
น้ำหอม Mitsou
สิ่งที่น่าตื่นเต้นของน้ำหอม Jicky นั้นคือ Jicky ไม่ใช่น้ำหอมที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างสรรค์ธรรมชาติ แต่Jicky ใช้ส่วนผสมใหม่อีกสองกลิ่น อันถือเป็นนวัตกรรมแห่งวงการน้ำหอมในยุคนั้น นั้นคือ coumarin และ vanillin ซึ่งนับเป็นกลิ่นหอมที่ทันสมัยมากในสมัยนั้น เป็นการเปิดโลกใหม่ อาณาจักรใหม่ของน้ำหอมอย่างแท้จริง ส่วน L'Heure Bleue อันชวนให้ดื่มด่ำเร้าใจในปี ค.ศ. 1912 นั้นก่อให้เกิดวังวนในบรรยากาศแห่งยุคแบ็ลล์ อีพ็อค (Belle epoque) อย่างสมบูรณ์ (แบ็ลล์ อีพ็อคเป็นศิลปะในช่วงทศวรรษที่ 20 ถ้าคุณอยากรู้ถึงบรรยากาศเช่นนั้น ไปหาภาพยนตร์เรื่อง Titanic ซึ่งแสดงโดย ลีโอนาร์โด เดอคาปริโอ กับ เคท วินสเล็ทมาดู ทุกอย่างในตัวเรือคือบรรยากาศศิลปะแห่งแบ็ลล์ อีพ็อค)

และเมื่อน้ำหอม Mitsouko ออกมาปรากฎตัวในปี 1919 กลิ่นหอมท้าทายที่ได้จากเปลือกพีชสุก (ถือเป็นส่วนผสมที่ค้นพบขึ้นใหม่ในยุคนั้น) เป็นที่จับใจสุภาพสตรีในยุคหลังสงคราม ให้ความรู้สึกลึกซึ้งแห่งจิตวิญญาณศิลปะแบบ อาร์ต นูโว (Art Nouveau) ทว่าShalimar กลับเป็นน้ำหอมอีกรูปการณ์อย่างสิ้นเชิง น้ำหอมกลิ่น Shalimar เปิดตัวเมื่อปี ค.ศ. 1925 ในฐานะน้ำหอมกลิ่นคร่าใจชายให้ด่าวดิ้นสิ้นชีพ น้ำหอมกลิ่นนี้เป็นผลงานสร้างสรรค์ของ ฌาคส์ เกอร์แลง (Jacques Guerlain) ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบกลิ่นมาจากความรักของจักรพรรดิองค์ที่สามแห่งราชวงศ์มองโกลในอินเดีย ที่ทรงมีให้แก่พระชายาคือ พระนางมุมตัล มาฮาล ทรงมีรับสั่งให้สร้างราชอุทยาน เพื่อเป็นบรรณาการแห่งพระนางในละฮอร์ อุทยานนี้มีชื่อว่า ชาลิมาร์ (เมื่อพระนางมุมตัล มาฮาล สิ้นพนะชนม์ พระองค์ก็ทรงรับสั่งให้สร้างทัชมาฮาล์ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรัก ความอาลัยกลายเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทั้งเจ็ดของโลก)
น้ำหอม shalimar
น้ำหอม shalimar
นี้คือกลิ่นน้ำหอมที่ให้ความรู้สึกรัก ความเร่าร้อนยวนเสน่ห์ แฝงไว้ด้วยความอ่อนหวานหวามไหว บรรจุอยู่ในขวด ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้นึกถึงศิลปกรรมโลกตะวันออก และนี่คืออีกศักราชแห่งอาณาจักรของน้ำหอม

ในยุคนี้บรรดาผู้สร้างสรรค์น้ำหอม หรือกลิ่นหอมที่เรียกว่าเพอร์ฟูมเมอร์ต่างเป็นนายชะตาตัวเอง ชีวิตของพวกเขาดำเนินไปอย่างงดงามด้วยการอุปถัมภ์ของบรรดาชนชั้นสูง สูงศักดิ์ สูงฐานะที่มีปัญญาจะสรรซื้อน้ำหอมของพวกเขาได้ พวกเขาสามารถผสมผสานผลงานใหม่ๆอันน่าจับตาขึ้นมาได้เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเกิดแรงบันดาลใจ หรือค้นพบส่วนผสมใหม่ๆขึ้นเพอร์ฟูมเมอร์บางคนทำงานเป็นศิลปินอิสระ บ้างก็เปิดร้านเล็กๆเป็นของตัวเอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะเอกลักษณ์พิเศษของพวกเขา รวมถึงบุคลิคนิสัย และความชำนาญเฉพาะอย่าง หนึ่งในนั้นคือ ฟรังซัวส์ โคตี้ (Francois Coty) ผู้ยิ่งใหญ่ จุดหมายของเขาคือใช้ส่วนผสมสังเคราะห์ใหม่ๆ มาผลิตน้ำหอมคุณภาพดี ราคาเหมาะสมให้ซื้อหากันได้อย่างสบายๆ ในหมู่ชนชั้นกลางผู้มีฐานะดี

Francois Coty
Francois Coty
น้ำหอม L'Origan ในปี ค.ศ. 1905 น้ำหอม Chypre ในปี 1917 และ L'Aimant ในปี 1927 กลายเป็นน้ำหอมคลาสสิคยอดนิยม เพราะแต่ละกลิ่นล้วนก่อให้เกิดอารมณ์ใหม่ที่แตกต่าง น้ำหอมที่มีกลิ่นเร้าอารมณ์เปิดเผย และไม่หรูหราเลิศลอยเกินเอื้อม นี่คือน้ำหอมสำหรับทุกคน ยิ่งไปกว่านั้น ฟรังซัวส์ โคตี้ เริ่มแนวทางการตลาด และการโฆษณาให้แก่ผลิตภัณฑ์น้ำหอมด้วยการเพิ่มภาพต่างๆ ที่แลเห็นเป็นตัวเป็นตนเพื่อก่อให้เกิดความเข้าใจ ตระหนักรู้ถึงกลิ่นน้ำหอม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น